แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Explain แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Explain แสดงบทความทั้งหมด

RSS Feed คืออะไร


0 ความคิดเห็น


อาร์เอสเอส (RSS = Really Simple Syndication) คือ ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบเอ็กเอ็มแอล (XML) ที่กำหนดขึ้นมา สำหรับกระจายข้อมูลออกไปสู่เว็บไซต์ (Website Syndication) หรือเว็บบล็อก (Web Blog) เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถใช้ติดตามข่าวสารใหม่ๆได้ในทันที
ตัวย่อต่าง ๆ ที่ใช้อ้างถึงมาตรฐานนี้
  • Rich Site Summary (RSS 0.91)
  • RDF Site Summary (RSS 0.9 และ 1.0)
  • Really Simple Syndication (RSS 2.0)
RSS หรือ Really Simple Syndication เป็นบริการใหม่บนเว็บไซต์ภาษา XML ใช้สำหรับดึงข้อมูลหรือข่าวจากเว็บต่างๆ มาแสดงบนหน้าเว็บเพจ โดยนำมาเฉพาะหัวข้อข่าว เมื่อผู้ใช้คลิกลิงค์ก็จะแสดงรายละเอียดข่าวในเว็บต้นฉบับนั้นๆ โดยที่หัวข้อข่าวจะอัปเดทตามเว็บต้นทางโดยถ้าข้อมูลที่เว็บต้นแบบถูกแก้ไขจะทำให้ข่าวที่เว็บของเรามีการแก้ไขตามไปด้วย ซึ่งการดึงหัวข้อข่าวไปแสดงนั้นจะมีส่วนประกอบทั้งหมดสามส่วนคือส่วนผู้ให้บริการดึงข่าว และส่วนผู้สร้างเว็บไซต์ใช้ทั่วไปที่ต้องการดึงข่าวไปแสดง และส่วนผู้ใช้ทั่วไป

RSS ช่วยลดข้อจำกัดในการคัดลอกข้อมูลในเว็บไซต์โดยเฉพาะกรณีการละเมิดลิขสิทธิ์ ขณะที่ผู้สร้างไม่ต้องเสียเวลาทำหน้าเพจแสดงข่าว ซึ่งต้องทำทุกครั้งเมื่อต้องการเพิ่มข่าว โดย RSS จะดึงข่าวมาอัตโนมัติ ทำให้ข้อมูลบนเว็บไซต์เป็นศูนย์กลางมากขึ้น

ปัจจุบัน RSS ถูกนำมาประยุกต์ใช้เป็นรูปแบบกลางในการบริการข้อมูลทางธุรกิจ และมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการแชร์ข้อมูล เช่นเว็บไซต์ข่าว หรือบล็อก ซึ่งจะมีการแสดงข้อมูลบนหน้าต่างพรีวิวแยกต่างหากเพื่อให้ผู้ใช้ไม่สับสน รวมถึงสามารถสืบค้นข้อมูลได้

จุดเด่นของ RSS คือผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องเข้าไปตามเว็บไซต์ต่างๆเพื่อดูว่ามีข้อมูลอัปเดทใหม่หรือไม่ ขณะที่เว็บไซต์แต่ละแห่งอาจมีระยะความถี่ในการอัปเดทไม่เท่ากัน บางครั้งผู้ใช้ยังอาจหลงลืมจนเข้าไปดูเนื้อหาอัปเดทใหม่บนเว็บไม่ครบถ้วน รูปแบบ RSS จะช่วยให้ผู้สามารถรับข่าวสารอัพเดทใหม่ได้โดยไม่ต้องเข้าไปดูทุกครั้งให้เสียเวลา ได้ประโยชน์ทั้งฝ่ายผู้บริโภคและฝ่ายเจ้าของเว็บไซต์

นอกจากนี้สำหรับนักท่องเน็ตทั่วไป สามารถนำประโยชน์ของ RSS นี้ไปใช้งานได้ โดยสามารถติดตั้งโปรแกรม RSS Reader ใช้สำหรับดึงหัวข้อข่าวสารที่มีบริการ RSS มาไว้ในเครื่องของเรา และเมื่อมีการ อัพเดทจากเว็บนั้นๆ เราก็สามารถคลิกลิงค์ไปยังเว็บที่ให้บริการได้โดยตรง ช่วยให้ย่นเวลาในการเข้าไปดูเว็บต่างๆ ได้เป็นอย่างมาก

URL คืออะไร


0 ความคิดเห็น


URL คือ ที่อยู่ของไฟล์หรือเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต ถูกย่อมาจากคำว่า Uniform Resource Locator เป็นเสมือนที่อยู่ (Address) เพื่อการระบุตำแหน่งของเอกสารข้อมูลต่างๆ สำหรับเข้าถึงที่ตั้งทรัพยากร ไฟล์หรือเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต (Internet) เหล่านั้น ซึ่งไฟล์ข้อมูลแต่ละอันจะมี URL เป็นของตัวเอง โดยแต่ละส่วนของ URL จะเป็นสิ่งที่ใช้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับที่ตั้งของเอกสารนั้น

ตัวอย่างเช่น
http://www.maxlayout.com/p/about.html
ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่ารูปแบบของ URL ประกอบด้วย
- ชื่อโปรโตคอล (Protocol) ที่ใช้คือ "http"
- ชื่อเครือข่ายที่ใช้เชื่อมต่อกันคือ "www"
- ประเภทของเว็บไซต์คือ ".com"
- ไฟล์ที่ต้องการอยู่ในไดเรคทอรี่ชี่อ "/p/"
- ชื่อไฟล์และนามสกุล "about.html"

Hyperlink คืออะไร


0 ความคิดเห็น


การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) ซึ่งมักเรียกกันย่อๆ ว่า "ลิงค์" หมายถึงจุดเชื่อมโยงบนหน้าเว็บเพจ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นข้อความ ปุ่มกดหรือรูปภาพ ที่สามารถคลิกเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงโดยจะส่งให้ผู้ใช้ไปสู่เว็บเพจหน้าอื่น ไปที่ทรัพยากรอื่น รวมทั้งไปยังโปรแกรมที่มีการทำงานในเว็บเพจเหล่านั้น

บล็อก (Blog) คืออะไร


0 ความคิดเห็น


บล็อก (Blog) เป็นคำย่อมาจากศัพท์ว่า Weblog ที่เกิดจากการรวมกันของคำสองคำคือ
  • Web หมายถึง เว็บไซต์
  • Log หมายถึง บันทึก
และเมื่อรวมมากันเป็น Weblog แล้วก็หมายถึง เว็บสำหรับเก็บบันทึก
บล็อกถือว่าเป็นเว็บไซต์รูปแบบหนึ่งที่ผู้เขียนสามารถจดบันทึกในสิ่งที่สนใจ ซึ่งอาจใช้สำหรับเก็บบันทึกเรื่องราวส่วนตัวเป็นไดอารีออนไลน์ เผยแพร่ข่าวสารต่างๆ หรือนำเสนอบทความที่มีเนื้อหาเฉพาะด้าน

โดยตามปกติแล้วเนื้อหาที่ได้บันทึกลงไปในครั้งล่าสุดจะถูกนำไปแสดงไว้ที่หน้าแรกให้โดยอัติโนมัติเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถติดตามเนื้อหาใหม่ได้สะดวก นอกจากนี้ผู้เขียนยังสามารถจัดหมวดหมู่แบ่งประเภทของเนื้อหาได้อีกด้วย

จุดเด่นของบล็อกก็คือ การที่ผู้เขียนมีอิสระในการสร้างบทความของตน และในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้แสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหานั้นได้ในกรณีที่เจ้าของบล็อกอนุญาติอีกด้วย ซึ่งบล็อกจะแตกต่างจากเว็บบอร์ดตรงที่ผู้เขียนบทความสามารถดูแลการนำเสนอเนื้อหาของตนได้อย่างสะดวก

DNS คืออะไร


0 ความคิดเห็น


ระบบ DNS (Domain Name System) คืออะไร
ระบบ Domain Name System (DNS) นี้เป็นระบบจัดการแปลงชื่อไปเป็นหมายเลข IP address โดยมีโครงสร้างฐานข้อมูลแบบลำดับชั้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลที่เรียกค้นได้อย่างรวดเร็ว
กลไกหลักของระบบ DNS คือทำหน้าที่แปลงข้อมูลชื่อและหมายเลข IP address หรือทำกลับกันได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติมอื่นๆ อีก เช่น แจ้งชื่อของอีเมล์เซิร์ฟเวอร์ใน domain ที่รับผิดชอบด้วย ในระบบ DNS จะมีการกำหนด name space ที่มีกฎเกณฑ์อย่างชัดเจน มีกลไกการเก็บข้อมูลเป็นฐานข้อมูลแบบกระจาย ทำงานในลักษณะของไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server)

การทำงานของระบบ DNS
การทำงานของระบบชื่อโดเมนนั้น เริ่มต้นจากเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งทำหน้าที่เป็น DNS Server ซึ่งทำงานด้วยซอฟแวร์พิเศษชื่อว่า BIND ที่ทำหน้าที่ในการรับส่งข้อมูลระหว่าง DNS Server แต่ละเครื่องผ่าน DNS Photocal เมื่อมีคำร้องขอให้สืบค้นหมายเลข ไอพี อย่างไรก็ตาม คำตอบที่ DNS Server จะมีให้ก็ต่อคำร้องหนึ่งๆนั้นขันกับว่า DNS Server นั้นเป็น DNS Server ประเภทใด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1. Name Server
2. Resolver

ข้อจำกัดของระบบ DNS
- รับรู้เฉพาะตัวอักษรละติน (ASCII character set)
- ใน RFC 1035 ระบุว่าสัญลักษณ์ที่ใช้ได้ในโดเมนเนม คือ
(1) ตัวอักษร aถึง z (case insensitive)
(2) เลข 0 – 9
(3) เครื่องหมายยติภังค์ (-)

ประวัติความเป็นมาของระบบ DNS
ราวช่วงศตวรรษที่ 90 ในขณะที่การใช้งานอีเมลล์เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย จำนวนเครือข่ายที่เชื่อมต่อมายังเครือข่าย ARPA NET ได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้บริการเครือข่ายแบบรวมศูนย์ของ SRI ( The NIC ) เริ่มประสบปัญหาในการจัดการระบบฐานข้อมูลซึ่งใช้ในการอ้างอิงถึงโฮสท์ที่เชื่อมต่อมาจากเครือข่ายอิสระต่างๆ ที่มีโครงสร้างการทำงานที่แตกต่างกัน โดยในขณะนั้น การเพิ่มรายชื่อโฮสท์แต่ละเครื่องเข้ามาในเครือข่าย ARPA NET จำเป็นต้องส่งข้อมูลโดยการ FTP เข้ามาปรับปรุงข้อมูลในไฟล์ Host Table ที่ SRI เป็นผู้ดูแล ซึ่งจะมีการปรับปรุงข้อมูลเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้น ทำให้การจัดการข้อมูลมีความล่าช้าและไม่ยืดหยุ่น นอกจากนี้เครือข่ายต่างๆ ที่เข้ามาเชื่อมต่อต่างก็ต้องการอิสระในการจัดการบริหารระบบของตนเองจึงเกิดแนวความคิดที่กระจายความรับผิดชอบในการจัดระบบนี้ออกไป โดยแบ่งการจัดพื่นที่ของโลกเสมือนนี้ออกเป็นส่วนๆ โดยกำหนดให้โฮสท์แต่ละเครื่องอยู่ภายใต้ขอบเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่ได้แบ่งเอาไว้ โดยแต่ละพื้นที่สามารถแบ่งออกเป็นพ้นที่ที่เล็กลงได้อย่างไม่จำกัด ซึ่งพื้นที่แต่ละส่วน ก็ถูกอ้างไปยังพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเป็นลำดับชั้นขึ้นไป เพื่อให้สามารถระบุตำแหน่งอ้างอิงของโฮสท์แต่ละเครื่องที่อยู่ภายใต้ขอบเขตของแต่ละพื้นที่ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยพื้นที่เสมือนแต่ละส่วนถูกเรียกว่า “ โดเมน” (Domain) และเรียกการอ้างระบบอ้างอิงเป็นลำดับชั้นด้วยชื่อของแต่ละพื้นที่หรือโดเมนนี้ว่า “ ระบบชื่อโดเมน ” ( Domain Name System)ส่วนพื้นที่ทั้งหมดของโลกเสมือนที่ประกอบด้วยพื้นที่ย่อยๆจำนวนมากนี้ จะเรียกว่า “Domain Name Space”

HTML คืออะไร


0 ความคิดเห็น


HTML เป็นตัวย่อของ Hypertext Markup Language หมายถึง ภาษามาร์คอัพข้อความหลายมิติ ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างของเอกสารบน website หรือที่เราเรียกกันว่าเว็บเพจ ใช้ในการแสดงผลข้อมูลผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ซึ่งเริ่มพัฒนาโดย ทิม เบอร์เนอรส์ ลี (Tim Berners Lee) โดยในปัจจุบัน HTML เป็นมาตรฐานหนึ่งของ ISO ถูกดูแลภายใต้องค์กร World Wide Web Consortium หรือเรียกย่อว่า W3C (http://www.w3c.org)

ภาษา HTML จะมีนามสกุล .html หรือ .htm โดยมีองค์ประกอบ 2 ส่วนคือ ส่วนเนื้อหา และส่วนที่เป็นคำสั่งหรือแท็กรูปแบบ ทั้งนี้เราสามารถเขียน HTML ได้โดยใช้โปรแกรม Text Editor ที่มีอยู่ทั่วไปเช่น โปรแกรม Notepad เป็นต้น ซึ่งวิธีการเขียนก็เป็นแบบเดียวกับการพิมพ์เอกสารตามปกติเพียงแต่เวลาเซฟไฟล์ (Save) ก็ให้ใส่คำว่า .html หรือ .htm ต่อท้ายที่หลังชื่อไฟล์

เช่น ถ้่าต้องการทำไฟล์ HTML ชื่อ 001 ก็ให้พิมพ์ชื่อเวลา Save ว่า 001.html หรือ 001.htm ก็ได้

เวิลด์ไวด์เว็บ (www) คืออะไร


0 ความคิดเห็น


เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web, WWW, W3) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "เว็บ" คือพื้นที่เก็บข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกันทางอินเทอร์เน็ตเป็นแบบเครือข่ายคล้ายใยแมงมุมโดยใช้การกำหนด URL ซึ่งผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เก็บไว้ภายในของคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องได้ผ่านทางบราวเซอร์ (Browser)

Credit: http://www.krucomp.net/net/page11.html