แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Photoshop แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Photoshop แสดงบทความทั้งหมด

Photoshop: ประทับตราด้วย Dissolve


0 ความคิดเห็น


วิธีทำตราประทับ NOT FOR SALE ด้วยการเปลี่ยน Blending Mode


ขั้นตอนที่ 1. เขียนอักษร
เปิดโปรแกรม Photoshop จากนั้นเขียนตัวอักษรลงไป
ซึ่งในตัวอย่างนี้จะใช้อักษรสีแดง (#ff0000) บนพื้นหลังสีขาว (#ffffff)
โดยสามารถเปลี่ยนพื่นหลังตามตัวอย่างให้กลายเป็นรูปภาพก็ได้ตามต้องการ



ขั้นตอนที่ 2. ปรับลักษณะตัวอักษร
เลือกที่เลเยอร์ตัวอักษรโดยเปลี่ยน Blending Mode เป็น 'Dissolve'
แล้วตั้งค่า Fill เป็น 85%



ขั้นตอนที่ 3. วาดเส้นกรอบ
สร้างเลเยอร์เพิ่มขึ้นหนึ่งอันวางไว้ด้านบนสุดสำหรับทำเส้นกรอบ
แล้วสร้าง Selection เป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบตัวอักษรเอาไว้



ขั้นตอนที่ 4. ทำเส้นกรอบให้โค้งมน
เลือกเมนู Select > Modify > Smooth
แล้วใส่ค่าความโค้งมนของขอบสี่เหลี่ยมตามต้องการ
โดยในตัวอย่างนี้ตั้งค่าเท่ากับ 10



ขั้นตอนที่ 5. ลงสีเส้นกรอบ
เลือกเมนู Edit > Stroke
แล้วเลือกขนาดเส้นกรอบและใส่สีตามต้องการ
โดยในตัวอย่างนี้ตั้งค่าขนาดเป็น 20 และใช้สีแดง (#ff0000)
ซึ่งพอลงสีเส้นกรอบเสร็จแล้วก็อย่าลืมกดปุ่ม <Ctrl+D> บนคีย์บอร์ดเพื่อสั่ง 'Deselect'



ขั้นตอนที่ 6. ปรับลักษณะเส้นกรอบ
เลือกที่เลเยอร์ตัวเส้นกรอบโดยเปลี่ยน Blending Mode เป็น 'Dissolve'
แล้วตั้งค่า Fill เป็น 85%



ขั้นตอนที่ 7. หมุนและปรับขนาด
เลือกทั้งเลเยอร์ตัวอักษรและเลเยอร์เส้นกรอบไว้พร้อมกัน
แล้วเลือกเมนู Edit > Free Transform
จากนั้นสามารถหมุนหรือย่อขยายขนาดของตราประทับนี้ได้ตามต้องการ

Photoshop: อักษรเงาสะท้อน (Photoshop Text Reflection)


0 ความคิดเห็น

วิธีการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop สร้างตัวหนังสือแบบเงาสะท้อน (Photoshop Text Reflection) สามารถทำได้ดังนี้




ขั้นตอนที่ 1. เริ่มสร้างตัวอักษร
เปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมา แล้วพิมพ์ตัวหนังสือที่ต้องการให้สะท้อนใส่ลงไป จากนั้นตั้งชื่อเลเยอร์ที่มีภาพพื้นหลังใส่อยู่ว่า "BG-Maxlayout" และเลเยอร์ซึ่งมีข้อความตัวหนังสือใส่อยู่ว่า "Text"




ขั้นตอนที่ 2. แต่งรายละเอียด
โดยสามารถตบแแต่งใส่สีให้ตัวอักษรและพื้นหลังได้ตามต้องการ




ขั้นตอนที่ 3. คัดลอกเลเยอร์
สั่งคัดลอกเลเยอร์ "Text" เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอัน ด้วยการกดปุ่ม <Alt> บนคีย์บอร์ดค้างไว้พร้อมกับเลือกเลเยอร์ "Text" จากนั้นค่อยลากเมาส์เลื่อนเลเยอร์ขึ้นด้านบน โดยตั้งชื่อเลเยอร์ที่เพิ่มขึ้นใหม่นี้ว่า "Reflect"




ขั้นตอนที่ 4. กลับด้านตัวอักษร
ให้สั่งกลับด้านตัวอักษรซึ่งได้่คัดลอกไว้ โดยให้ไปที่เลเยอร์ "Reflect" แล้วเลือก "Edit > Transform > Flip Vertical"




ขั้นตอนที่ 5. ย้ายตำแหน่งเงาสะท้อน
จากนั้นขยับเลเยอร์ "Reflect" ให้เลื่อนลงมาด้านล่างไปอยู่ใต้ตัวอักษรของเลเยอร์ "Text" โดยเว้นระยะห่างระหว่างกันเล็กน้อย




ขั้นตอนที่ 6. สร้างหน้ากากให้เลเยอร์
ไปที่เลเยอร์ "Reflect" แล้วเลือก "Add Vector Mask" จะพบว่าเกิด "Layer Mask Thumbnail" ปรากฏขึ้นมาด้านข้าง




ขั้นตอนที่ 7. ไล่สีหน้ากากเลเยอร์
ไปที่ "Layer Mask" ของเลเยอร์ "Reflect" จากนั้นให้เลือกที่ "Gradeint Tool" ตั้งค่า Foreground เป็นสีดำและ Background เป็นสีขาวแล้วลากไล่สีจากบนลงล่าง
ซึ่งในตัวอย่างอันนี้ได้ลากไล่สีจากบริเวณตรงกลางของตัวอักษรด้านบนไปจนถึงตรงกลางของตัวอักษรที่กลับหัวดังรูป




ขั้นตอนที่ 8. ตรวจสอบผลงาน
โดยจะพบว่าความเข้มของเงาสะท้อนในเลเยอร์ "Reflect" ที่มีอยู่จะค่อยๆจางลง ซึ่งถ้ารู้สึกว่ายังไม่ดีพอก็สามารถลาก "Gradeint Tool" ไล่สีทับลงไปที่  "Layer Mask"  อันเดิมได้เรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ เมื่อเสร็จแล้วก็กดบันทึกผลงานได้เลย

Photoshop: ภาพขอบหยัก (Distort Ripple Frame)


0 ความคิดเห็น



ขั้นตอนที่ 1.
เปิดไฟล์ภาพที่ต้องการขึ้นมา จากนั้นกดปุ่ม <Ctrl+A> บนคีย์บอร์ดเพื่อสร้าง Selection



ขั้นตอนที่ 2.
คลิกเมนู 'Select > Modify > Contract...'
แล้วใส่ขนาดกรอบรูปลงไปในช่อง 'Contract By'
โดยในตัวอย่างนี้ให้ Contract = 22



ขั้นตอนที่ 3.
คลิกปุ่ม 'Edit in Quick Mask Mode' เพื่อทำงานในโหมด 'Quick Mask Mode'



ขั้นตอนที่ 4.
คลิกเมนู 'Filter > Distort > Ripple...' จากนั้นตั้งค่า
Amount = 250%
Size = Large
โดยยิ่งใส่ค่า Amout สูงจะทำให้ขอบรูปมีความหยักมาก



ขั้นตอนที่ 5.
คลิกปุ่ม 'Edit in Standard Mode' เพื่อกลับไปทำงานใน 'Quick Standard Mode' หรือโหมดปกติ



ขั้นตอนที่ 6.
คลิกปุ่ม 'Select > Inverse' เพื่อกลับด้าน Selection
แล้วสร้างเลเยอร์ขึ้นใหม่หนึ่งอันโดยวางไว้อยู่เหนือเลเยอร์รูปภาพ



ขั้นตอนที่ 7.
เทสีขาวลงไปในเลเยอร์ขึ้นที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
จากนั้นกดปุ่ม <Ctrl+D> บนคีย์บอร์ดเพื่อสั่ง 'Deselect' ก็เสร็จแล้ว

Photoshop: ภาพขอบฟุ้ง (Feather Frame)


0 ความคิดเห็น



ขั้นตอนที่ 1. เปิดไฟล์ภาพที่ต้องการขึ้นมา จากนั้นกดปุ่ม <Ctrl+A> บนคีย์บอร์ดเพื่อสร้าง Selection



ขั้นตอนที่ 2. คลิกเมนู 'Select > Modify > Contract...'
แล้วใส่ขนาดกรอบรูปลงไปในช่อง 'Contract By'



ขั้นตอนที่ 3. คลิกเมนู 'Select > Modify > Feather' หรือจะกดปุ่ม <Alt+Ctrl+D> บนคีย์บอร์ดแทนก็ได้
แล้วใส่ระยะความฟุ้งตามต้องการลงในช่อง 'Feather Radius'



ขั้นตอนที่ 4.  คลิกเมนู 'Select > Inverse' เพื่อกลับด้าน Selection
แล้วสั่งสร้างเลเยอร์เพิ่มขึ้นใหม่อีกหนึ่งอันโดยวางไว้อยู่เหนือเลเยอร์รูปภาพ



ขั้นตอนที่ 5.  เทสีของกรอบรูปที่ต้องการใส่ลงไปในเลเยอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ด้านบน
จากนั้นค่อยกดปุ่ม <Ctrl+D> บนคีย์บอร์ดเพื่อสั่ง Deselect ก็เสร็จแล้ว

Photoshop: ใส่กรอบรูปด้วย Canvas


0 ความคิดเห็น


ขั้นตอนที่ 1. เปิดไฟล์ภาพที่ต้องการขึ้นมา


ขั้นตอนที่ 2. ไปที่แถบเมนูด้านบนแล้วเลือกที่ 'Image > Canvas Size...'


ขั้นตอนที่ 3. เลือกลูกศรในช่อง 'Relative'


ขั้นตอนที่ 4. กำหนดขนาดกรอบที่ต้องการ ทั้งแนวนอน (Width) และแนวตั้ง (Height) ซึ่งกรอบจะถูกใส่เข้าในทั้งสองด้านของแต่ละแนวด้วยระยะที่เท่ากัน

ขั้นตอนที่ 5. เลือกสีของกรอบรูป

Photoshop: ภาพขอบม้วนงอ (Page Curl)


2 ความคิดเห็น


ขั้นตอนที่ 1. เปิดไฟล์ภาพที่ต้องการขึ้นมา แล้วเลือกไอคอน Create new fill or adjustment layer > Solid Color หรือจะไปที่แถบเมนูด้านบนแล้วเลือกที่ Layer > New Fill Layer > Solid Color แทนก็ได้



ขั้นตอนที่ 2. ในหน้าต่างสีซึ่งปรากฎออกมาก็ให้กำหนดค่าเป็นสีดำ (#000000) และตั้งชื่อเลเยอร์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า Color Fill 1



ขั้นตอนที่ 3. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 เปิดใช้เครื่องมือ Gradient Tool (G) แล้วตั้งค่าสีให้ไล่จากขาวไปหาดำดังรูป



ขั้นตอนที่ 4. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 ใช้เมาส์ลากเทสีด้วยGradient Tool ใส่บริเวณมุมด้านล่างของภาพเป็นแนวแทยงตามตัวอย่าง



ขั้นตอนที่ 5. จะพบว่าพื้นที่สีดำของเลเยอร์ Color Fill 1 ในบริเวณที่ได้ไล่สี Gradient ไปนั้นกลายเป็นโปร่งใสและสามารถมองทะลุไปเห็นภาพที่อยู่ด้านหลังได้



ขั้นตอนที่ 6. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 ให้สร้าง Selection รูปสี่เหลี่ยมขึ้นบริเวณมุมให้ครอบคลุมพื้นที่การไล่สี Gradient ในขั้นตอนที่แล้วทั้งหมด โดยควรมีขนาดใหญ่มากกว่าสักเล็กน้อย



ขั้นตอนที่ 7. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 เลือก Edit > Free Transform หรือจะกดปุ่ม Ctrl+T แทนก็ได้



ขั้นตอนที่ 8. กดที่ไอคอน 'Switch between free transform and warp modes' จะพบว่ามีเส้นแบ่งตารางปรากฎขึ้นภายใน Selection ที่สร้างไว้



ขั้นตอนที่ 9. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 เลือกที่จุดมุมตารางที่ซ้อนกับมุมภาพพื้นหลังจากขั้นตอนที่แล้ว จากนั้นให้ลากจุดมุมอันนั้นขึ้นมาไว้ในตำแหน่งที่ต้องการ และขยับแขนของมุมนั้นให้กว้างขึ้นดังรูปตัวอย่าง โดยจัดให้มีลักษณะม้วนเข้าด้านในคล้ายขอบกระดาษที่ม้วนงออยู่ ถ้าพอใจแล้วก็กดปุ่ม Enter



ขั้นตอนที่ 10. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 กด Ctrl+D เพื่อยกเลิก Selection ในขั้นตอนที่แล้ว



ขั้นตอนที่ 11. ที่เลเยอร์ Color Fill 1 ปรับค่า Fill ของเลเยอร์ Color Fill 1 ให้กลายเป็น 0%



ขั้นตอนที่ 12 กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้แล้วเลือกที่เลเยอร์ Color Fill 1 เพื่อสร้าง Selection



ขั้นตอนที่ 13. ไปที่เมนูด้านบนแล้วเลือก Selection > Inverse หรือจะใช้วิธีกดปุ่ม Shift+Ctrl+I แทนก็ได้ จะพบว่า Selection ได้ย้ายไปอยู่ที่มุมภาพแทน

ตัวอย่างการ Inverse Selection



ขั้นตอนที่ 14. สร้างเลเยอร์อันใหม่ขึ้นแล้วนำมาไว้ใต้เลเยอร์ Color Fill 1 และตั้งชื่อเลเยอร์ที่เกิดขึ้นใหม่นี้ว่า Layer 1



ขั้นตอนที่ 15. ที่เลเยอร์ Layer 1 ให้เทสีพื้นหลังรูปที่ต้องการลงไปโดยในตัวอย่างนี้จะใช้เป็นสีขาว (#ffffff) พอเสร็จแล้วค่อยกด CTRL+D เพื่อยกเลิก Selection



ขั้นตอนที่ 16. ให้ไปที่เลเยอร์ Color Fill 1 แล้วเลือกไอคอน Add a layer style > Inner Shadow โดยตั้งค่าดังนี้
เลือกสีดำ (#000000)
Opacity : 90%
Distance : 5px
Size : 5px
โดยเมื่อตั้งค่าในขั้นตอนนี้แล้วอย่าเพิ่งกดปุ่ม OK



ขั้นตอนที่ 17. ขณะนี้ยังทำงานอยู่ในหน้าจอ Layer Styles เหมือนเดิม ให้เลือกที่แถบ Stroke แล้วตั้งค่าดังนี้
Size : 10
เลือกสีให้เหมือนกับในขั้นตอนที่ 9 โดยในตัวอย่างนี้คือสีขาว (#ffffff)
พอเสร็จแล้วก็กดปุ่ม OK ที่บริเวณด้านขวาบนของหน้าต่างเมนู Layer Styles



ขั้นตอนที่ 18. จะได้ผลลัพธ์เป็นภาพขอบม้วนงอดังตัวอย่างด้านล่างนี้


Credit: http://blogs.sitepoint.com/make-a-page-curl-in-photoshop/