Blogger: ลบข้อความ 'ขับเคลื่อนโดย Blogger.'


วิธีลบข้อความแสดง Attribution ที่เขียนว่า 'ขับเคลื่อนโดย Blogger.' (Remove Attribution Powered by Blogger) ทำได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1. เข้าสู่บล็อกของคุณจากนั้นไปที่
'แม่แบบ > แก้ไข HTML'

ขั้นตอนที่ 2. กดปุ่ม 'Ctrl + F' บนคีย์บอร์ดแล้วสั่งค้นหาคำว่า
]]></b:skin>

ขั้นตอนที่ 3. แทนที่โค้ดที่หาเจอนั้นด้วยโค้ดใหม่ด้านล่างนี้
#Attribution1 {
  display: none;
}
]]></b:skin>


ขั้นตอนที่ 4. กดปุ่ม 'บันทึกเทมเพลต' จากนั้นลองเปิดบล็อกเพื่อดูผลลัพธ์

Facebook: วิธีดู Facebook User ID



สำหรับผู้ที่ตั้งชื่อผู้ใช้ Facebook Page หรือชิ่อ Facebook User ไปแล้ว เมื่อต้องการค้นหา Facebook User ID เพื่อติดตั้งตัวเสริมของ Facebook จะทำได้ดังนี้

ให้เอาชือ USER ที่ต้องการหา ID นั้นไปแทนที่ลงใน
https://graph.facebook.com/USER
แล้วเข้าไปที่หน้าเว็บนั้นก็จะพบ Facebook User ID ถูกแสดงไว้อยู่

ตัวอย่างเช่น
ถ้าต้องการหา ID ของผู้ใช้ที่ชื่อว่า
facebook
ก็ให้เข้าไปที่
https://graph.facebook.com/facebook
ก็จะพบบรรทัดหนึ่งเขียนไว่ว่า
"id": "20531316728",
ดังนั้น ID ของ User นี้ก็คือ
20531316728

Facebook: สร้างหน้าเพจ Facebook Page


วิธีสร้างหน้าเพจหรือแฟนเพจใน Facebook Page เพื่อสร้างสัมพันธ์อันใกล้ชิดขึ้นระหว่างผู้เข้าชมและลูกค้าของคุณ มีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1. เริ่มจากเข้าสู่บัญชี Facebook ของคุณเองก่อน


ขั้นตอนที่ 2. ไปที่
https://www.facebook.com/pages/create.php

ขั้นตอนที่ 3. เลือกประเภทของหน้าเพจแบบที่คุณต้องการ จากหนึ่งในทั้ง 6 แบบ


ขั้นตอนที่ 4.ใส่ข้อมูลเบื้องต้นของหน้าเพจ


ขั้นตอนที่ 5. หลังใส่ข้อมูลเบื้องต้นตามต้องการเสร็จแล้วก็เลือกยอมรับเงื่อนไขจากนั้นกดปุ่ม 'เริ่ม'


ขั้นตอนที่ 6. ใส่รูปประจำตัว


ขั้นตอนที่ 7. ใส่คำอธิบาย


ขั้นตอนที่ 8. ใส่ที่อยู่เว็บ Facebook ที่ต้องการเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึง
ตัวอย่างเช่น http://www.facebook.com/maxlayout


ขั้นตอนที่ 9. ถ้าที่อยู่เว็บซึ่งใส่ลงไปถูกใช้ไปแล้วหรือผิดเงื่อนไขของ Facebook
ก็จะไม่ผ่านและมีข้อความในกรอบสีแดงแจ้งว่า 'ไม่มีที่อยู่เว็บนี้ โปรดลองที่อยู่อื่น'


ขั้นตอนที่ 10. ตอนนี้หน้าเพจก็จะถูกสร้างขึ้นแล้วซึ่งสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลเบื้องต้นของหน้าเพจนี้ที่ได้ใส่ลงไปในขั้นตอนที่ผ่านมาได้โดยเลือกเริ่มจากเลือกที่ 'แก้ไขเพจ'


ขั้นตอนที่ 11. เลือกที่ 'อัพเดตข้อมูล'


ขั้นตอนที่ 12. ปรับเปลี่ยนข้อมูลได้ตามต้องการโดยหลังจากทำเสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่ม
'บันทึกการเปลี่ยนแปลง' ซึ่งอยู่ส่วนท้ายของหน้า

Blogger: ติดตั้ง Facebook Comment ที่คอมเมนท์ทั้งหมดรวมเป็นชุดเดียวกัน


Facebook Comment ที่คอมเมนท์ทั้งหมดรวมเป็นชุดเดียวกัน จะเป็นกล่องคอมเมนแบบที่ไม่ค่อยถูกใช้กับบล็อกซักเท่าไรนักแต่มักจะใช้กับหน้าเว็บมากกว่า จะมีลักษณะคือ ความคิดเห็นจากทุกโพสต์หรือทุกหน้าจะใช้กล่องคอมเมนท์อันเดียวกัน

อย่างไรก็ตามที่คอมเมนท์แบบนี้มีข้อดีคือ ความคิดเห็นทั้งหมดจะมีเป้าหมายอยู่ที่ URL เพียงอันเดียวที่คุณใส่ลงไปดังนั้นถ้าหากระบุให้ชี้ไปที่โดเมนเนมที่เป็นเจ้าของเอง เมื่อต่อไปย้ายออกจากบล็อกไปที่อื่นก็ยังสามารถคอมเมนท์ใส่กล่องคอมเมนท์ใบเดิมได้ และอีกประการหนึ่งคืออาจเหมาะสำหรับบล็อกที่มีผู้แสดงความคิดเห็นน้อยเพราะพอเอาทั้งหมดมารวมกันมันก็คงดูเยอะดี

แต่มีข้อเสียคือ เมื่อลองอ่านความคิดเห็นที่แสดงอยู่ในแต่ละหน้าอาจพบว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่แสดงอยู่ซักเท่าไหร่

ซึ่งมีวิธีสร้างได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1. เข้าสู่บล็อกของคุณจากนั้นไปที่
'แม่แบบ > แก้ไข HTML > ดำเนินการ > ขยายเทมเพลตวิดเจ็ต'


ขั้นตอนที่ 2. กดปุ่ม 'Ctrl + F' บนคีย์บอร์ดแล้วสั่งค้นหาคำว่า
<a name='comments'/>
จะพบว่าเจอโค้ดแบบเดียวกันอยู่ 2 แห่ง

โดยให้สังเกตดูโค้ดหนึ่งในสองแห่งที่หาเจอนั้นจะมีบรรทัดถัดมาถูกเขียนเอาไว้ว่า
<b:if cond='data:post.allowComments'>
ซึ่งโค้ดบรรทัดนี้ก็คือเป้าหมายการแก้ไขโค้ดของเราในขั้นตอนถัดไป


ขั้นตอนที่ 3. ให้แทนที่โค้ดเป้าหมายซึ่งมีเงื่อนไขตรงตามที่กล่าวมาแล้วในขั้นตอนที่ 2
ซึ่งถูกเขียนเอาไว้ว่า
<b:if cond='data:post.allowComments'>

ด้วยโค้ดกล่องคอมเมนท์ด้านล่างนี้
<b:if cond='data:blog.pageType == &quot;item&quot;'>
<div id="fb-root"></div>
<script>(function(d, s, id) {
  var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0];
  if (d.getElementById(id)) return;
  js = d.createElement(s); js.id = id;
  js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1";
  fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);
}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script>
<div class="fb-comments" data-href="http://maxlayout.com" data-num-posts="10" data-width="470"></div>

</b:if>
<b:if cond='data:post.allowComments'>


ขั้นตอนที่ 4. จากนั้นกดปุ่ม 'บันทึกเทมเพลต' แล้วลองเปิดบล็อกเพื่อดูผลลัพธ์

อธิบายเพิ่มเติม
ถ้าทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาครบถ้วนก็จะพบว่า มีกล่องคอมเมนท์เฟซบุ๊คโผล่ออกมาอยู่คู่กันกับกล่องคอมเมนท์บล็อกเกอร์ โดยถ้าหากต้องการให้เห็นแค่เฉพาะคอมเมนท์เฟซบุ๊คอย่างเดียวก็สามารถทำได้โดยสั่งซ่อนคอมเมนท์บล็อกเกอร์ตามบทความในลิงก์นี้ครับ
http://tip.maxlayout.com/2012/10/blogger-enable-or-disable-comment.html

Blogger: ติดตั้ง Facebook Comment ที่คอมเมนท์จำแนกตามเนื้อหาแต่ละหน้า


[Update: 2013-04-13]
ตอนนี้ผมเขียนโค้ดใหม่เป็นเวอชั่น 2 ซึ่งเพิ่มตัวนับจำนวนคอมเมนท์ใส่ลงไปด้วยโดยสามารถอ่านได้ที่ลิงก์นี้ครับ
http://tip.maxlayout.com/2013/04/blogger-add-facebook-comment-with-counter.html


Facebook Comment ที่จำแนกตามเนื้อหาแต่ละหน้า จะเป็นกล่องคอมเมนท์ที่แสดงความคิดเห็นของแต่ละบทความแบบแยกส่วนออกจากกัน โดยเป็นแบบที่ผู้สร้างบล็อกส่วนมากใช้กัน ซึ่งสร้างได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1. เข้าสู่บล็อกของคุณจากนั้นไปที่
'แม่แบบ > แก้ไข HTML > ดำเนินการ > ขยายเทมเพลตวิดเจ็ต'


ขั้นตอนที่ 2. กดปุ่ม 'Ctrl + F' บนคีย์บอร์ดแล้วสั่งค้นหาคำว่า
<a name='comments'/>
จะพบว่าเจอโค้ดแบบเดียวกันอยู่ 2 แห่ง

โดยให้สังเกตดูโค้ดหนึ่งในสองแห่งที่หาเจอนั้นจะมีบรรทัดถัดมาถูกเขียนเอาไว้ว่า
<b:if cond='data:post.allowComments'>
ซึ่งโค้ดบรรทัดนี้ก็คือเป้าหมายการแก้ไขโค้ดของเราในขั้นตอนถัดไป


ขั้นตอนที่ 3. ให้แทนที่โค้ดเป้าหมายซึ่งมีเงื่อนไขตรงตามที่กล่าวมาแล้วในขั้นตอนที่ 2
ซึ่งถูกเขียนเอาไว้ว่า
<b:if cond='data:post.allowComments'>

ด้วยโค้ดกล่องคอมเมนท์ด้านล่างนี้
<b:if cond='data:blog.pageType == &quot;item&quot;'>
<div id="fb-root"></div>
<script>(function(d, s, id) {
  var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0];
  if (d.getElementById(id)) return;
  js = d.createElement(s); js.id = id;
  js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1";
  fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);
}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script>
<div style='padding:0px;'>
<div class="fb-comments" expr:href="data:post.url" expr:title="data:post.title" expr:xid="data:post.id" data-num-posts="10" data-width="470"></div>
</div>
</b:if>
<b:if cond='data:post.allowComments'>



ขั้นตอนที่ 4. จากนั้นกดปุ่ม 'บันทึกเทมเพลต' แล้วลองเปิดบล็อกเพื่อดูผลลัพธ์

ถ้าทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาครบถ้วนก็จะพบว่า มีกล่องคอมเมนท์เฟซบุ๊คโผล่ออกมาอยู่คู่กันกับกล่องคอมเมนท์บล็อกเกอร์ โดยถ้าหากต้องการให้เห็นแค่เฉพาะคอมเมนท์เฟซบุ๊คอย่างเดียวก็สามารถทำได้โดยสั่งซ่อนคอมเมนท์บล็อกเกอร์ตามบทความในลิงก์นี้ครับ
http://tip.maxlayout.com/2012/10/blogger-enable-or-disable-comment.html


อธิบายเพิ่มเติม
สามารถตบแต่งพื้นหลังหรือเส้นขอบ ได้โดยให้แทนที่โค้ดในบรรทัดที่ 10 นับจากข้างบนสุด ซึ่งเดิมได้เขียนไว้ว่า
<div style='padding:0px;'>
ให้เป็นลักษณะใหม่ได้ตามต้องการเช่นลองแทนที่ด้วยโค้ดตัวอย่างข้างล่างนี้
<div style='padding:0px; background:#ffffff; border:solid 2px #1a356e;'>

และนอกจากนี้สามารถแก้ไขความกว้างของช่องใส่ความคิดเห็นนี้ได้โดยเปลี่ยนโค้ด
data-width
ซึ่งเดิมค่าเริ่มต้นได้กำหนดไว้ว่า
470
ให้เป็นขนาดใหม่ได้ตามต้องการ

Credit:
http://www.mybloggertricks.com/2012/03/show-facebook-comments-inside-tabs-in.html
http://www.helperblogger.com/2012/03/facebook-comment-box-for-blogger_06.html

Blogger: การเปิดใช้หรือสั่งซ่อนกล่องความคิดเห็น


การสั่งซ่อนกล่องใส่ความคิดเห็นของบล็อกเกอร์สำหรับบล็อกที่ไม่ต้องการให้ผู้อ่านแสดงความคิดเห็น หรืออาจทำเพื่อใช้กล่องคอมเมนท์ของผู้ให้บริการเจ้าอื่นเช่น Facebook แทน
นั้นทำได้โดยการตั้งค่าที่เมนูบล็อกแต่ละอันของระบบ Blogger ซึ่งความคิดเห็นทั้งหมดที่มีผู้ใส่ไว้ก่อนรวมทั้งแบบฟอร์มใส่ความคิดเห็นอันใหม่แล้วจะถูกซ่อนเอาไว้ ซึ่งสามารถเปิดแสดงดังเดิมอีกครั้งเมื่อใดก็ได้ซึ่งมีวิธีดังนี้


ขั้นตอนที่ 1. เข้าไปที่ Blogger โดยถ้าต้องการซ่อนความคิดเห็นของบล็อกอันไหนก็กดปุ่มขยายเมนูที่ด้านขวามือของชื่อบล็อกอันนั้นดังรูป



ขั้นตอนที่ 2. เลือกที่ 'การตั้งค่า'



ขั้นตอนที่ 3. เลือกที่ 'โพสต์และความคิดเห็น'



ขั้นตอนที่ 4. กดดูตัวเลือกที่อยู่ด้านข้างหัวข้อ 'ตำแหน่งความคิดเห็น' ซึ่งตามปกติแล้วทางบล็อกเกอร์จะตั้งค่าเริ่มต้นมาให้เป็น  'ฝัง'



ขั้นตอนที่ 5. เปลียนให้เป็น 'ซ่อน'



ขั้นตอนที่ 6. เลือกที่ 'บันทึกการตั้งค่า'



ขั้นตอนที่ 7. รอสักครู่จนมีข้อความแสดงออกมาว่า 'บันทึกการตั้งค่าเสร็จแล้ว' ก็เสร็จเรียบร้อย



อธิบายเพิ่มเติม
ถ้าต้องการสั่งเปิดใช้กล่องแสดงความคิดเห็นเหมือนเดิม ก็ให้เข้ามาที่เมนูนี้อีกครั้งแล้วเปลี่ยนจาก 'ซ่อน' ให้กลายเป็น 'ฝัง' เหมือนในตอนแรกแล้วกดที่ 'บันทึกการตั้งค่า' แล้วก็รอจนมีข้อความแสดงว่า 'บันทึกการตั้งค่าเสร็จแล้ว' จากนั้นก็เสร็จแล้ว

นอกจากนี้สามารถอ่านรายละเอียดของรูปแบบในการแสดงความคิดเห็นแต่ละชนิดได้ที่ไอคอนด้านข้างหัวข้อ 'ตำแหน่งความคิดเห็น'